Product Subwoofer Speaker REL Acoustics 212 SX (Black)
REL Acoustics
REL ACOUSTICS :
212 SX (BLACK)
Category : Subwoofer Speaker
Add to wishlist     สถานะสินค้า In Stock
212 SX (Black)
212 SX (Black)
212 SX (Black)
212 SX (Black)
212 SX (Black)
212 SX (Black)
212 SX (Black)
212 SX (Black)
 

** เฉพาะบัตรเครดิตที่เข้าร่วมรายการ **
 
PRICE :
234,900 THB.
SPECIAL :
199,900 THB.
ฟรีค่าขนส่ง
 
สอบถามสินค้า 02-103-1289,02-040-4229 เพิ่มเติม...
จำนวน ตู้

  • Overview
  • Specifications

REL Acoustics 212 SX (Black) Free Bass line blue (3.0M)

212/SX builds on the strengths of the legendary 212/SE. Upgraded alloy drivers with carbon fiber blades are stronger, a new flat passive radiator extends even deeper and our PerfectFilter™ delivers crushing low bass with greater speed and air, taking 212/SX well beyond its illustrious predecessor.


http://staff-p2.piyanas.com/images/20200708/imP73UVc_x.jpg

The Powerful 212/SX
Quality Meets Quantity

At REL, a deeper understanding of quality underpins everything we do. So, whilst 212/SX thunders and shakes foundations, it also resolves detail and restores midrange warmth to its correct balance. At 1,000 watts with (4) 12” (350mm) drivers, 212/SX drives rooms hard and in multiple modes which allows it to create richer bass everywhere in a room.

Refinements to both our legendary ultra-fast filters and newly developed drivers produces harder slam and brings to life quieter, gentler moments, improving system performance at both extremes. Plays brilliantly with both high end 2-channel and large power theatre applications.


http://staff-p2.piyanas.com/images/20200708/bg5XdLUQ_x.jpg

Double Down
Twin Continuous Cast™ Alloy Bass Engines

Lightweight carbon fiber blades firmly attached to the rear of each active alloy cone serves to both strengthen the cone and quiet it. The twin 12” (350mm) active drivers now offer an additional 12mm of stroke and also benefit from updated suspension geometry and greater power handling. And a brand-new double-spider, high powered passive unit on the bottom delivers floor rippling low bass. The result is a major step forward in the 212 design, an already brilliant performer now playing louder with greater ease whilst better preserving the tiniest details of air and space with even greater precision.


http://staff-p2.piyanas.com/images/20200708/EVMzaVYI_x.jpg
Sound Beyond Its Size
Dual Continuous Carbon Passive Radiators

Our uniquely tuned passive radiators use special suspensions, now with an additional 30mm of linear travel, to produce performance far beyond conventional subwoofers. Our new SuperProgressive™ passive radiator produces extremely long travel allowing for very loud output while retaining the variable stiffness of its suspension.

The down firing passive produces deep, floor-crawling bass that makes a room shudder. Mounted above the amplifier panel on the rear is the second passive. This unit produces wrap around “atmospheric” bass that adds air and shimmer to the sound. Coupling with either the rear wall or the rear corner of a room allows for bass to develop exceedingly long wavefronts and adds an ease and effortless quality unique to single-box designs.


http://staff-p2.piyanas.com/images/20200708/nYLGhfWj_x.jpg

NextGen5 1,000w Digital Amplifier
Whoever said “Power Corrupts” Never Heard a 212/SX

With incredible reliability in units now numbering in the thousands, the Gen 5 amplifier is a paragon of extreme power and reliability. At 1,000 watts of output, plus the ability to connect both High Level and .1/LFE simultaneously with optional state of the art wireless, 212/SX delivers the goods at scale. It does so with incredible grip and control in the extreme deep bass where most amplifiers get loose and lose control.

212/SX has an almost limitless sense of power, coupled with precision. Where others offer brute strength, we deliver massive power and every secondary category of performance with ease and effortless versatility. Deafening output in a concert video or blockbuster movie? Check. Beautifully rendered female vocals accurately placed within a stone abbey? Check.


http://staff-p2.piyanas.com/images/20200708/E3LKq8WJ_x.jpg
Futureproof Wireless
Airship Zero-Compression Wireless

We seized the opportunity to develop a new high resolution, audiophile-grade uncompressed wireless system for 212/SX and our newer offerings in the Reference range. Airship™ is a new 5.8 gHz military-based wireless system built into a monolithic LSI chip that delivers incredibly fast bass. We ship full bandwidth, not just bass, through this system that includes (2) channels. The first channel handles our High Level Input and can be used for both stereo bass or use of a single channel with monoblock amplifiers. Simultaneously, Airship will process the .1/LFE channel necessary for special effects in film so both RCA and XLR inputs are provided. In the future, we anticipate adoption of more active wireless loudspeakers reaching the market, so we included stereo low level inputs. With Airship, you’re ready for the future.



เบื้องหลังความเป็นมาของ REL Stacks หรือ REL Line Array

ผมจำได้ดีเมื่อครั้งที่มีโอกาสในการเข้าร่วมงาน CES ครั้งแรกของผมในปี 1981 ที่ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สถานที่ซึ่งให้ความรู้สึกว่าเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กที่อยู่ในร้านขายขนมอีกครั้ง – จากห้องจัดแสดงหลักในศูนย์ McCormick Centre ซึ่งเต็มไปด้วยแบรนด์ญี่ปุ่นยี่ห้อดัง ไปจนถึงโรงแรม Pick Congress Hotel ซึ่งจัดแสดงแบรนด์เครื่องเสียงไฮเอ็นด์คุณภาพสูงที่ดีที่สุดในห้องที่ถูกจัดไว้เฉพาะ - มันเป็นสิ่งที่ให้ความตื่นเต้นเป็นอย่างมากสำหรับเด็กอายุ 22 ปี การสำรวจงานที่ด้านล่างของโรงแรมทำให้ผมค้นพบความประหลาดใจหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงห้องหนึ่งที่เป็นห้องจัดแสดงเครื่องเสียงขนาดใหญ่ ประเภทที่ใช้สำหรับการประชุม ขนาด 20 x 32ฟุต โดยที่หน้าห้องไม่มีป้ายข้อมูลใด ๆ แต่กลับมีเสียงดนตรีคลาสสิกนุ่ม ๆ เล็ดลอดออกมาจากประตูคู่ที่เปิดอยู่ ขณะที่ผมเดินเข้าไป ผมจำได้ว่าเป็นเพลง Shostakovich Symphony และราวกับการแสดงมีคิวที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า ทันทีที่ผมยื่นหัวเข้าไป เสียงกระหึ่มของเบส Herculean ได้พุ่งออกมาทางประตู ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับเสียงเบสที่เต็มไปด้วยพลัง มีความลื่นไหล และเหมือนมีชีวิตจริง


เสียงเบสอันน่าตื่นตาตื่นใจนี้มีต้นกำเนิดมาจากตู้วูฟเฟอร์หน้าตาแสนธรรมดาวางเรียงซ้อนกันสองคอลัมน์ ซึ่งดูคล้ายกับตู้ชั้นวางหนังสือ AR ยุค 60 ที่วางตะแคงข้าง บรรจุไดรเวอร์ขนาด 2 x 8นิ้ว ประมาณ 6-8 ดอกต่อด้าน วางซ้อนกันตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน พร้อมกับเสริมด้วยเสียงจากลำโพงไฟฟ้าสถิต Acoustat Model 4 - 4 แผงจำนวน 1 คู่ ที่วางอยู่บนขาตั้งแบบสร้างเองที่ยกระดับลำโพงให้สูงขึ้นประมาณ 18-24นิ้ว ซึ่งสามารถสร้างเสียงดนตรีที่มีความสมดุลมาก การจัดเวทีเสียงนั้นมีความสมบูรณ์แบบและความสมดุลจากบนลงล่างนั้นสุดยอดมาก ซึ่งเป็นความยอดเยี่ยมในระดับที่ผมเริ่มจะรู้แล้วว่ามันจะเป็นเช่นนี้อยู่เสมอหาก ดร. คีธ จอห์นสัน (หัวหน้าทีมออกแบบของ Entec) มีส่วนในการเซ็ตระบบและปรับแต่ง สิ่งที่ผมได้ยินในตอนนั้นคือต้นแบบแรกของสิ่งที่ในที่สุดก็ได้กลายเป็นซับวูฟเฟอร์ในแบรนด์ของ Entec ซึ่งได้รับการเปิดตัวในอีก 3 ปีต่อมา อย่างไรก็ดีสายการผลิตซับวูฟเฟอร์ดังกล่าวนี้ไม่อาจทัดเทียมได้กับความรู้สึกความอบอุ่นของดนตรีในซับวูฟเฟอร์ต้นแบบแรกๆ แต่ถึงกระนั้นก็ตามประสบการณ์ในวันแรกที่ผมได้สัมผัสนั้นยังคงฝังอยู่ข้างในความทรงจำอย่างเต็มเปี่ยมเสมอมา


- ปี 2010 ณ เมืองเบิร์กลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
หลายปีต่อมา ในขณะที่ทีมออกแบบ REL ของผม และตัวผมเองใกล้ประสบความสำเร็จในการผลิตต้นแบบรุ่น Gibraltar G-1 ผมได้นึกย้อนกลับไปยังประสบการณ์ช่วงแรก ๆ และสงสัยว่า สิ่งที่ล้ำสมัยของศิลปะสมัยใหม่เช่นซับวูฟเฟอร์ G-1 จะให้เสียงอย่างไรถ้านำไปวางเป็นแนวเรียงซ้อนกันในแบบ Reference Line Array (RLA)? มันจะสามารถให้เสียงเบสที่ลุ่มลึกและจะมีประสิทธิภาพแค่ไหนถ้านำหลักการนี้มาประยุกต์ใช้? มันจะทำให้เกิด cross-coupling มากเกินไประหว่างไดรเวอร์จนทำให้น้ำเสียงเบสขาดความอ่อนโยนและความละมุนละไมหรือไม่? แต่ปรากฏว่า นี่เป็นหนึ่งในโครงการที่ง่ายที่สุดที่เคยทำมา ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี ในการพิสูจน์ถึงคุณภาพที่ดีของ G-1 มากไปกว่านั้นในปัจจุบันยังสามารถนำไอเดียนี้มาใช้กับรุ่น No. 25 และ G-1 MKII รุ่นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย


แผงแบบ Reference Line Array (RLA) ก่อให้เกิดประโยชน์หลายประการ; ประการแรก ลำโพงที่อยู่ล่างสุดจะถูกยึดติดกับพื้นอย่างแน่นหนาทำให้สามารถสร้างเสียงเบสความถี่ต่ำมากๆ ที่ลุ่มลึกที่สุดโดยใช้ประโยชน์จากแผ่นระนาบที่ใหญ่ที่สุดในห้อง ซึ่งก็คือพื้นห้องนั่นเอง ลำดับต่อมาของชั้นสแต็กคือลำโพงตัวกลางที่มีหน้าที่ในการสร้างมวลเบสแบบกระแทก นั้นคือเสียงเบสความถี่ต่ำถึงระดับกลาง เช่น กลอง pistonic kick drums หรือ เอฟเฟกต์ที่มีความรุนแรงในแทร็กเสียงภาพยนตร์เช่นเสียงระเบิด และลำโพงตัวสุดท้ายด้านบนสุด ถูกวางอย่างเป็นอิสระจากพื้นและเพดานของห้อง - ให้เสียงเบสที่แผ่วเบาดุจขนนก ซึ่งเสียงเบสในระดับนี้จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติเท่านั้น โดยที่เราจะสามารถรับรู้ความถี่นี้ได้เมื่อเข้าไปในถ้ำหรือโถงขนาดใหญ่ โดยลำโพงตัวบนสุดนี้เองจะสื่อสารให้เรารับรู้ได้ถึงขนาด รายละเอียดพื้นที่ และความยิ่งใหญ่ในแบบที่ไม่ค่อยพบในชุดเครื่องเสียงทุกๆขนาดหรือทุกระดับราคา


ในขณะที่เราทดลองกับต้นแบบสแต็กแรกของเรา เราเรียนรู้จากการทดลองได้อย่างรวดเร็วว่า การใช้ขาสำหรับลำโพงที่วางซ้อนอยู่ ซึ่งไม่ใช่ลำโพงตัวล่างได้สร้างปัญหาหลายประการ รวมไปถึงสร้างความเสียหายของเคลือบผิวลำโพงตัวล่าง และที่สำคัญกว่านั้น ในขณะที่ขามีประโยชน์อย่างมากในการให้ความมั่นคงต่อลำโพงตัวล่างเพียงตัวเดียวบนพื้น แต่ทว่ามันกลับสร้างความไม่มั่นคงเมื่อใช้กับลำโพงตัวบน ผมได้ทำการทดลองด้วยระดับความสูงที่แตกต่างกันไป – ปรากฏว่าความสูงของขานั้นไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์กับแนวคิดของ RLA เลย – และหลังจากผ่านการสร้างต้นแบบราวสองถึงสามรอบ ในที่สุดเราก็พบกับทางออก นั้นคือ การใช้ลำโพง 3 ตัววางซ้อนกันในแนวนอนจะทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อใช้ร่วมกับลำโพงรุ่นเดียวกันอันทันสมัยของเรา นอกจากนี้ เราค้นพบกว่าลำโพงคุณภาพยอดเยี่ยมในช่วงราคา $25,000-40,000 สามารถทำงานได้ดีโดยการใช้ซับวูฟเฟอร์เพียง 4 ตัว (วางซ้อนกันข้างละ 2 ตัว) 


การออกแบบขั้นสุดท้าย คือการขจัดความยุ่งเหยิงทางสายตาออกไป โดยการทำการเชื่อมต่อเอาท์พุทเพื่อให้สามารถใช้สายเคเบิลเดียวต่อสแต็กแล้วกระจายไปยังซับวูฟเฟอร์ส่วนบนเพิ่มเติมจากตัวล่างขึ้นมา ซึ่งได้นำไปสู่การกำเนิดแนวคิด RLA หรือแนวคิดการตั้งซ้อนกันของซับ REL Reference subs มันเป็นสิ่งที่น่ายินดีหากแนวคิดอันยอดเยี่ยมนี้สามารถก่อให้เกิดการเลียนแบบขึ้น ซึ่งก็จะเห็นการนำแบบไอเดียของเรานี้ไปใช้ได้จากงาน Munich High End Show ที่เยอรมนีเมื่อปีที่แล้วนี่เอง เราสามารถสังเกตเห็นว่ามีไม่น้อยกว่า 15 บริษัทที่แสดงลำโพงหรือกำลังจะเปิดตัวลำโพงโดยใช้แนวคิดแบบ RLA


อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญอย่างยวดยิ่งที่มีผลต่อประสิทธิภาพของ RLA คือ การแยกการตั้งค่า gain และ crossover สำหรับซับวูฟเฟอร์ในแต่ละตัว การปรับและเพิ่มประสิทธิภาพของแต่ละสแต็กนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการเพิ่มบทบาทของซับวูฟเฟอร์ในแต่ละตำแหน่งภายในสแต็ก การออกแบบที่เลียนแบบแนวคิดนี้เริ่มมีออกมาและมีแนวโน้มที่จะใช้แอมป์เดี่ยวสำหรับซับวูฟเฟอร์ในแต่ละตัว ซึ่งจะทำให้ข้อดีส่วนใหญ่ของ RLA ที่แท้จริงหายไป เป็นผลทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นเสียงเบสที่ทรงพลัง แต่เต็มไปด้วยความขุ่นมัว


การใช้การเชื่อมต่อระดับสูงของเราที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นหัวใจหลักของซับวูฟเฟอร์ REL ทุกตัวที่เราทำออกมา พร้อมกับการควบคุม gain และ crossover อันแม่นยำ ทำให้ RLA มีความได้เปรียบที่ไม่เหมือนใคร  มันจะช่วยให้ลำโพงแต่ละตัวในสแต็กได้รับการปรับให้ทำงานเป็นรายตัวอย่างกลมกลืนด้วยกันเองและกับลำโพงคู่หน้า นี้จึงเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถสร้างเสียงเบสที่เป็นธรรมชาติและสมบูรณ์แบบที่สุดซึ่งสามารถทำให้ผมรู้สึกทึ่งและสร้างความประทับใจได้เหมือนกับครั้งหนึ่งในงาน CES ที่ชิคาโกเมื่อสามทศวรรษก่อน


ขอให้สนุกกับการฟังเพลงนะครับ!
จอห์น ฮันเตอร์
Owner & Sales/Design Director


สัมภาษณ์ John Hunter
เจ้าของและผู้ออกแบบ REL Acoustics


การปรับจูนซับวูฟเฟอร์ REL 

Type:  (2) Front-firing active drivers, (1) rear passive, (1) down-firing passive
Active Driver Size & Material (2) 12 in., 300mm long-throw, Continuous CastAlloy™ cone structure, cast chassis
Passive Radiator Size & Material (2) 12 in., 300mm Carbon/Carbon flat cone structure, steel chassis
Low Frequency Extention -6dB at 18 Hz
Input Connectors High Level Neutrik Speakon, Low Level stereo RCA, LFE XLR and LFE RCA
Output Connectors N/A
Power Output 1,000 watts (RMS)
Amplifier Type NextGen 5 Class D
Wireless Capability Yes- REL AirShip system [required]. Sold separately.
Protection System
Fully Electronic Set Safe Yes
D.C. Fault Yes
Output Short Yes
Mains Input Voltage 220-240 volts, 1120-120 volts for certain markets
Fuses 7 Amp semi delay 220 volts operation, 15 Amp semi delay 120 volts operation
Dimensions
W x H x D 14 1/4in., x 33in., x 20 1/4 in., (362 x 838 x 514.5mm)
Net Weight 128 lbs. (58 kg)
Finish Piano Black Lacquer, White Lacquer, 10 coats
Supplied Accessories
Mains Lead Yes
Interconnect -
Neutrik Speakon Yes (10 Meters Nominal)
Users Manual Yes
วิธีการชำระเงิน